
รู้จักกับยาปรับฮอร์โมน ee20d, ee30d และ ee35c รวมถึงการเลือกทานอย่างไรให้ตอบโจทย์สาว ๆ แต่ละแบบจะเป็นอย่างไร ไปดูกันเลยค่ะ!
รู้ไหมว่า..ยาปรับฮอร์โมน ee20d, ee30d และ ee35c ต่างกันยังไง และควรทานตัวไหนกันแน่?
เชื่อว่าสาว ๆ หลายคนมักมีคำถามสงสัยเกี่ยวกับ ยาปรับฮอร์โมน เพราะเดี๋ยวนี้มีให้เลือกทานหลายชนิดมาก แล้วแต่ละตัวก็ให้ผลที่แตกต่างกันออกไป นอกจากผลลัพธ์ที่ช่วยคุมกำเนิดแล้ว ก็ต้องเลือกว่าชนิดไหนสามารถตอบโจทย์เราด้วย เช่น อยากลดสิว กลัวบวมน้ำ เป็นต้น วันนี้เกิร์ลเดลี่เลยจะพาสาว ๆ ไปทำความรู้จักกับยาปรับฮอร์โมนทั้ง 3 ตัว คือ ยาปรับฮอร์โมน ee20d, ee30d และ ee35c
ที่มาของชื่อเล่นยาปรับฮอร์โมน
“ยาปรับฮอร์โมนพวกนั้นมันคืออะไร ฉันไม่เคยได้ยินมาก่อน” อาจเป็นคำถามที่สาวหลายคนสงสัยในใจ เราเลยขออาสาสร้างความเข้าใจให้กับทุกคนก่อนว่า ชื่อเหล่านี้มันคืออะไร ยกตัวอย่างเช่น เมื่อเราพูดว่า “ยาปรับฮอร์โมน ee20d, ee30d และ ee35c” คำว่า “ee20d หรือ ee35c” นั้นหมายความว่าอะไร
- ee หมายถึง Ethinyl estradiol หรือ ฮอร์โมนเอสโตรเจน
- เลข 20, 30, 35 หมายถึง ปริมาณเอสโตรเจนที่มีอยู่ในยานั้น
- c หมายถึง ส่วนประกอบของตัวยาที่ชื่อว่า ไซโปรเตอโรน อะซิเตท (Cyproterone acetate)
- d หมายถึง ส่วนประกอบของตัวยาที่ชื่อว่า ดรอสไพรีโนน (Drospirenone)
EE (Ethinyl estradiol) คืออะไร?
ยาปรับฮอร์โมนมีส่วนประกอบทดแทนฮอร์โมน คือ “เอสโตรเจน” (EE: Ethinyl estradiol) โดยยาปรับฮอร์โมนแต่ละแบบ จะแบ่งตามปริมาณเอสโตรเจนที่เป็นส่วนประกอบ คือ ee 20-35 ซึ่งระดับฮอร์โมนที่แตกต่างกันจะเหมาะกับผู้หญิงแต่ละแบบ แต่ก็ถือได้ว่ามีระดับฮอร์โมนต่ำเมื่อเทียบกับในอดีต ซึ่งยาคุมระดับฮอร์โมนต่ำนี้ จะช่วยลดอาการผลข้างเคียง อย่างอาการคลื่นไส้ อาเจียน เวียนศีรษะ ที่อาจเกิดขึ้นหลังจากทานเข้าไปได้ด้วยนะคะ
ดรอสไพรีโนน (Drospirenone) คืออะไร?
ดรอสไพรีโนน เป็นฮอร์โมนที่เป็นส่วนประกอบหนึ่งในยาคุมกำเนิด มีคุณสมบัติอื่นที่มีประโยชน์นอกเหนือจากการคุมกำเนิด คือช่วยลดอาการอ้วนบวมน้ำเนื่องจากการคั่งของน้ำในร่างกาย ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นได้ เพราะคุณสมบัตินี้เอง ที่ทำให้ดรอสไพรีโนนเหมือนกับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่ร่างกายสร้างขึ้นมา
นอกจากนี้ดรอสไพรีโนนยังมีฤทธิ์ยับยั้งฤทธิ์ของฮอร์โมนเพศชาย (แอนโดรเจน) เลยสามารถช่วยลดสิวและความมันของผิวหนังและเส้นผมให้สาว ๆ นั่นเองค่ะ
ไซโปรเตอโรน อะซิเตท (Cyproterone acetate) คืออะไร?
ไซโปรเตอโรน อะซิเตท เป็นฮอร์โมนโปรเจสตินที่มีคุณสมบัติเด่นกว่าโปรเจสตินตัวอื่นๆในการต้านฮอร์โมนเพศชาย นำมาใช้ในการรักษาสิวเห่อ หน้ามัน ผมมัน ขนดกในผู้หญิง โดยฮอร์โมนเอสโตรเจนอยู่ด้วย จะช่วยให้ผิวพรรณดูมีน้ำมีนวลมากขึ้น
คุณสมบัติของยาปรับฮอร์โมนแต่ละแบบ
เมื่อรู้จักกับส่วนประกอบของตัวยาเบื้องต้นกันแล้ว ต่อไปเกิร์ลเดลี่ก็จะเล่าถึงความแตกต่างและวิธีการเลือกทานยาปรับฮอร์โมนให้เข้าใจอย่างถูกต้องมากขึ้น ไปดูกันเลยค่ะ!
1. ยาปรับฮอร์โมน ee20d
จุดเด่นของยาปรับฮอร์โมน ee20d
ยาปรับฮอร์โมนแบบแรกนี้ มีชื่อเรียกว่า ee20d เป็นชนิดที่ทานแล้วเอฟเฟกต์น้อย สามารถใช้เป็นยาเม็ดคุมกำเนิดป้องกันการตั้งครรภ์ โดยไม่ทำให้เราตัวบวม อ้วน หรือน้ำหนักเพิ่มขึ้นจากการคั่งของน้ำในร่างกายค่ะ สาวคนไหนอยากกินยาคุมแล้วกลัวอ้วนบวมน้ำ แนะนำตัวนี้เลย
ข้อดีของยาปรับฮอร์โมน ee20d
- ช่วยรักษาอาการของ PMDD/Premenstrual Dysphoric Disorder ได้ด้วย นั่นก็คือ จะช่วยลดอาการก่อนมีประจำเดือนชนิดรุนแรง ลดอาการเหวี่ยงวีนไม่รู้ตัว (ที่เกิดจากฮอร์โมน) ให้น้อยลง
- ช่วยลดปวดประจำเดือน
- ลดบวมน้ำ ซึ่งมาจากส่วนประกอบที่ชื่อว่า ดรอสไพรีโนน (Drospirenone)
- รักษาสิวที่มีอาการปานกลาง (ถ้าสิวเห่อ แนะนำให้พบแพทย์ผิวหนังแทนค่ะ)
- ลดน้ำมันใต้ผิวที่ทำให้ผิวมันเยิ้ม
ยาปรับฮอร์โมน ee20d เหมาะกับใคร?
ขอแนะนำว่า เป็นปริมาณที่เหมาะกับคนที่ยังไม่เคยทานยาคุมกำเนิดมาก่อน หรือคนที่อยากทานยาคุมแต่กลัวเอฟเฟคท์ตามมาคืออ้วนและบวม และคนที่ผิวมันเป็นสิวง่าย ปริมาณนี้ก็จะช่วยคุมเรื่องนี้ไปด้วยเลย
2. ยาปรับฮอร์โมน ee30d
จุดเด่นของยาปรับฮอร์โมน ee30d
ยาปรับฮอร์โมนแบบที่สองนี้ มีชื่อเรียกว่า ee30d เป็นชนิดที่ทานแล้วเอฟเฟกต์น้อยรองลงมา นอกจากจะใช้เป็นยาเม็ดคุมกำเนิดแล้ว ยังมีคุณสมบัติคล้ายแบบแรก ก็คือจะไม่ทำให้เราตัวบวม อ้วน หรือน้ำหนักเพิ่มขึ้นจากการคั่งของน้ำในร่างกายด้วย ใครจะกินยาคุมแล้วกลัวอ้วนบวมน้ำ ก็ไม่ต้องเป็นกังวลนะคะ
ข้อดีของยาปรับฮอร์โมน ee30d
- ลดบวมน้ำ ซึ่งมาจากส่วนประกอบที่ชื่อว่า ดรอสไพรีโนน (Drospirenone)
- ลดน้ำมันใต้ผิวที่ทำให้ผิวหน้า หรือหนังศีรษะลักษณะมันเยิ้ม โดยเป็นผลมาจากฮอร์โมน
- รักษาสิวที่มีอาการปานกลาง (หากเป็นสิวเห่อ แนะนำให้พบแพทย์ผิวหนังแทน)
- ช่วยคุมการคุมกำเนิด ในขณะเดียวกันก็ช่วยป้องกันไม่ให้น้ำหนักเพิ่ม
ยาปรับฮอร์โมน ee30d เหมาะกับใคร?
เป็นยาปรับฮอร์โมนที่เหมาะกับสาวๆ ที่อยากทานยาคุมแต่กลัวเอฟเฟคท์ กลัวบวมกลัวอ้วน และเหมาะสำหรับคนที่ผิวมันเป็นสิวง่าย รู้สึกหนังศีรษะมันเยิ้มจากฮอร์โมน เหมาะเลยล่ะค่ะ
3. ยาปรับฮอร์โมน ee35c
จุดเด่นของยาปรับฮอร์โมน ee35c
เป็นยาปรับฮอร์โมนแบบสุดท้ายนี้ มีชื่อเรียกว่า ee35c ที่นอกจากป้องกันการตั้งครรภ์แล้ว ยังช่วยรักษาภาวะต่างๆ ของผิวหนัง สำหรับคนที่มีฮอร์โมนเพศชายสูงกว่าปกติ ซึ่งทำให้มีอาการต่อไปนี้ตามมาได้ง่ายกว่าคนอื่น คือ เป็นสิว ผิวมันมาก เป็นผู้หญิงที่ขนจะค่อนข้างดกในช่วงอายุวัยเจริญพันธุ์ หรือบางคนที่มีอาการภาวะ PCOS หรือถุงน้ำรังไข่หลายใบ
ข้อดีของยาปรับฮอร์โมน ee35c
- ยับยั้งฮอร์โมนเพศชาย ช่วยปรับสมดุลให้กับร่างกาย เพราะมีส่วนประกอบของ “ไซโปรเตอโรน อะซิเตท” ตัวนี้ล่ะที่จะช่วยได้
- ลดอาการขนดก จากฮอร์โมนเพศชาย
- ช่วยเรื่องสิว รวมถึงช่วยให้ผิวมันน้อยลง
- ลดอาการภาวะถุงน้ำในรังไข่หลายใบ (PCOS) อันเกิดจากฮอร์โมนที่ไม่สมดุลภายในร่างกาย
ยาปรับฮอร์โมน ee35c เหมาะกับใคร?
อย่างที่บอกว่า คนที่เจอกับปัญหาที่เกิดจากฮอร์โมนเพศชายในร่างกายมากเกินไป อย่าง ขนดก ผิวมันมากจนสิวขึ้นเห่อ ขนาดทานยาหรือทายารักษาสิวแล้วไม่หาย อีกหนึ่งทางออกนั่นก็คือการทานยาปรับฮอร์โมน ee35c นั่นเอง
เข้าใจถึงยาปรับฮอร์โมนได้เป๊ะขึ้น
มาถึงตรงนี้ ทุกคนน่าจะพอรู้จักกับยาปรับฮอร์โมนทั้ง 3 แบบเป็นอย่างดีแล้ว เกิร์ลเดลี่แนะนำว่าให้สังเกตอาการตัวเองก่อนว่าเรามีอาการแบบไหนเป็นพิเศษ เช่น ประจำเดือนมาทีไรชอบเหวี่ยงวีน ปวดท้องหนักทุกที หรือเป็นคนจะกินยาคุมแต่กลัวตัวบวม หรือบางคนมีภาวะขนดกผิดปกติ หรือเคยตรวจเจอ PCOS (ภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ) ก็จะได้เลือกปริมาณ ee20, 30, 35 ได้ตอบโจทย์ตัวเองมากขึ้น และจะได้ช่วยลดการเกิดผลข้างเคียงต่างๆ ให้ทุเลาลง
แต่ย้ำว่าทุกครั้งก่อนซื้อยาคุมมาทานเอง ควรปรึกษาแพทย์และเภสัชกรใกล้บ้านทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัยด้วยนะคะ
ข้อมูลอ้างอิง