
ผ่านปีใหม่มาหลายเดือนจนจะเข้ากลางปีอยู่แล้ว สาวๆ ได้จัดทริปไปเที่ยวไหนกันมาบ้าง อย่าบอกนะว่า “ยัง” ตายๆ แบบนี้ก็หมดไฟทำงานกันพอดี ลองเช็คลิสต์ประเทศเหล่านี้ เพราะ Lonely Planet ได้จัดให้เป็นประเทศที่น่าไปเยือนที่สุดในปีนี้ เพราะเราถือคติ Work Hard, Travel Harder นะ
START !!
1. SINGAPORE
สำหรับปีนี้ ความพิเศษของสิงคโปร์ก็คือ การเฉลิมฉลองในโอกาสครบรอบ 50 ปีการแยกตัวออกมาเป็นประเทศอย่างสมบูรณ์ หลายคนอาจชอบการเที่ยวชมเหล่าอาคารมรดกโลก แหล่งช้อปปิ้งใหญ่ยักษ์ หรือกระทั่งพื้นที่สีเขียวที่ชาวสิงคโปร์ให้ความสำคัญ แต่ยิ่งไปกว่านั้น เสน่ห์อย่างหนึ่งของสิงคโปร์ก็คือการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง และสรรหาที่เที่ยวใหม่ๆ มาล่อใจนักท่องเที่ยวได้ทุกปี
2. NAMIBIA
ร่วมฉลอง 25 ปีแห่งอิสรภาพของนามิเบีย ประเทศในทวีปแอฟริกาตอนใต้ ริมฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก นามิเบียขึ้นเรื่องความปลอดภัย ทั้งยังมีธรรมชาติที่สวยงาม และทางการยังเอาจริงเอาจังกับเรื่องการอนุรักษ์ด้วย ที่เที่ยวไม่ควรพลาด "อุทยานแห่งชาตินามิบ-น็อคลัฟท์" อุทยานแห่งชาติขนาดใหญ่ที่สุดในแอฟริกา และใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก แถมยังเป็นทะเลทรายที่มีเนินทรายที่สูงที่สุดในโลกด้วย
3. LITHUANIA
ลิทัวเนียตั้งอยู่ในทวีปยุโรปทางฝั่งตะวันออกของทะเลบอลติก เป็นประเทศขนาดเล็กที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงาม และเมื่อวันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมาลิทัวเนียก็เพิ่งเข้าเป็นสมาชิกใหม่ของยูโรโซน การเดินทางที่นี่ก็สะดวกสบาย สถานที่ท่องเที่ยวก็มีมากมาย ทั้งหาดทรายขาวยาวสุดลูกหูลูกตาที่รู้จักกันในชื่อ Curonian Spit ปราสาททราไก เนินกางเขนเมืองชัวเลย์ รวมถึงเมืองหลวงอย่างกรุงวิลนีอุสด้วย
4. NICARAGUA
นิการากัว คือดินแดนแห่งทะเลสาบและภูเขาไฟ เป็นประเทศที่มีพื้นที่มากที่สุดในอเมริกากลาง แต่มีความหนาแน่นของประชากรน้อยที่สุด แม้เคยเป็นประเทศอาณานิคม เคยเกิดสงครามกลางเมือง การจลาจล รวมถึงภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ แต่ด้วยภูมิประเทศที่สวยงาม ทำให้การท่องเที่ยวเติมโตอย่างรวดเร็ว จนปัจจุบันจัดเป็นอีกหนึ่งจุดหมายที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเดินทางมาอย่างไม่ขาดสาย
5. IRELAND
ดินแดนเก่าแก่ บรรยากาศแสนสวยของเมืองเก่าแบบชนบท ฝูงเกาะในทุ่งหญ้า บ้านมุงจาก เสน่ห์ของสถานที่แห่งนื้คือบรรยากาศแบบดั้งเดิม ทั้งเพลงท้องถิ่น การเต้นรำ วิสกี้และเบียร์ แต่ในขณะเดียวกัน กรุงดับลิน เมืองหลวงของประเทศนี้กลับเต็มไปด้วยสีสัน ขอแนะนำ Wild Atlantic Way เส้นทางชมวิวกว่า 2,500 กิโลเมตรลัดเลาะไปตามชายฝั่งตะวันตกที่จะทำให้คุณต้องมนต์ไอร์แลนด์อย่างจัง
6. REPUBLIC OF CONGO
สาธารณรัฐคองโก (คนละประเทศกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก) อยู่บริเวณตอนกลางของทวีปแอฟริกา แม้จะไม่ได้ฮ็อตฮิตเหมือนประเทศใหญ่ ๆ แต่จุดขายที่สร้างความประทับใจให้นักท่องเที่ยวได้ไม่น้อย ปัจจุบันคองโกกำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ มีการขยายตัวด้านโครงสร้างพื้นฐาน โดยนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักเดินทางมาคองโกเพื่อชมกอริลลาพันธุ์หายาก และสัมผัสเขตป่าฝนอันอุดมสมบูรณ์
7. SERBIA
เซอร์เบียตั้งอยู่ทางตอนกลางค่อนไปทางตะวันออกเฉียงใต้ของยุโรป เป็นอีกประเทศที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน และมีธรรมชาติอันสวยงามและรู้ไหมว่าแหล่งท่องเที่ยวยามค่ำคืนของที่นี่ก็แจ่มไม่แพ้ใคร รวมไปถึงงานยักษ์ระดับโลก Exit Festival เทศกาลสุดมันส์ที่จัดติดต่อกันมาตั้งแต่ปี 2000 ณ เมืองโนวีแซด โดยรวมทั้งคอนเสิร์ตแดนซ์กระจายที่เล่นกันจนฟ้าสาง เทศกาลหนัง และศิลปะไว้ด้วยกัน
8. PHILIPPINES
กว่า 7,100 เกาะของหมู่เกาะฟิลิปปินส์ เต็มไปด้วยแนวปะการังสำหรับผู้หลงใหลการดำน้ำ หาดทรายสีขาวให้นอนอาบแดด ต้นปาล์มเรียงราย และบังกะโลมุงจาก แถมในปีนี้ดูเหมือนรัฐบาลก็ให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวไม่น้อย ทั้งการจัดงานพาเหรด เทศกาลอาหาร การแข่งขันกีฬา และการแสดงดนตรี ขณะที่สายการบินฟิลิปปินส์เองก็ได้รับการอนุมัติเพิ่มเที่ยวบินตรงไปยังอีกหลายประเทศ
9. ST.LUCIA
เกาะทางตะวันออกของทะเลแคริบเบียนที่เต็มไปด้วยเสน่ห์แห่งภูเขาสีเขียวและหาดทรายสีทอง ด้วยลักษณะภูมิประเทศแบบเขตร้อน ป่าดิบชิ้น ภูเขาไฟ ที่นี่จึงเหมาะสำหรับผู้ที่รักการผจญภัย สาวรักธรรมชาติสามารถว่ายน้ำเคียงข้างโลมา เฝ้าดูเต่าทะเลวางไข่ แอบดูเหล่าอีกัวน่า หาความตื่นเต้นด้วยการปีนเขา รวมถึงการดำน้ำดูปะการัง อีกทั้งที่นี่ยังถูกยกให้เป็นสถานที่โรแมนติกสำหรับฮันนีมูนอีกด้วย
10. MOROCCO
โมร็อกโกเป็นเมืองที่มีสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นจนได้รับยกย่องเป็นมรดกโลก สำหรับผู้ที่ชอบการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ไม่ควรพลาดที่นี่ นอกจากเขตเมืองเฟซที่โดดเด่นด้วยบ่อย้อมสีเครื่องหนังบนหลังคาบ้านอันเป็นเอกลักษณ์ ยังมี จัตุรัสกลางกรุงมาร์ราคิช ศูนย์รวมวัฒนธรรม ทั้งอาหารและวิถีชีวิตของคนท้องถิ่น หรือจะเป็นหมู่บ้านสีฟ้าอันโด่งดังพร้อมเส้นทางวกวนชวนหลงใหล
Source: www.lonelyplanet.com/best-in-travel/countries
** เรื่องโดย fiefiez S. สงวนลิขสิทธิ์ ไม่อนุญาตให้คัดลอกภาพหรือเนื้อหาใดๆ ไปใช้ก่อนได้รับอนุญาต หากต้องการเผยแพร่กรุณากดปุ่มเพื่อแชร์บทความจากเพจเท่านั้น **